โดยธรรมชาติแล้ว ลำโพงที่มีขนาดเล็กก็จะมีความสามารถในการรองรับกำลังขับจากแอมป์ได้ “ต่ำกว่า” ลำโพงที่มีขนาดใหญ่ เมื่อต้องเร่งวอลลุ่มจากแอมป์เพื่อ “อัด” สัญญาณเข้าไปกระตุ้นให้ลำโพงเปล่งเสียงให้ดังมากขึ้นจนเต็มห้อง ลำโพงเล็กๆ จึงมักจะถูก push ให้เข้าไปอยู่ในโซนที่เป็นข้อจำกัดทางธรรมชาติของมัน และถ้าถูกดันจนถึงจุดสูงสุดที่มันรองรับได้ ผลเสียก็จะปรากฏออกมากับน้ำเสียง ซึ่งโดยมากก็จะเป็นไปในลักษณะของเสียงที่จัดจ้าน พุ่งแหลม เฟี๊ยวฟ๊าว และสูญเสียการควบคุม ซึ่งฟังแล้วจะรับรู้ได้ถึงอาการที่ทำให้รู้สึกเครียด ล้า ไม่น่าฟัง
5Hz แม้จะยังไม่ได้ยินเสียงชัดๆ แต่ผมก็รู้สึกได้ว่ามีเสียงครางต่ำๆ ดังขึ้นมาเบาๆ ภายในห้อง พอถึงความถี่ 40Hz เสียงก็เริ่มดังชัดขึ้นๆ เรื่อยๆ เมื่อป้อนความถี่ที่สูงกว่า 40Hz เข้าไปเป็นลำดับ
มาครบทุกประเด็น ตั้งแต่ตัวตู้ไปจนถึงไดเวอร์ฯ ลำโพงวางขาตั้งรุ่นใหม่ แต่ไม่ได้ตัดตู้ให้เตี้ยลงเฉยๆ นะ หากแต่พวกเขายังได้
ก็ฟังดีแล้ว แค่ว่าดีไซน์ของแอมป์กับลำโพงมันอาจจะย้อนแย้งกันอยู่บ้าง ถ้าเอาทั้งเสียงดี+ดูดีไปด้วยพร้อมๆ กันก็จับกับ
ขาตั้งลําโพงเซอร์ราวด์ ขาตั้งลำโพง
ผมคิดว่าดีไซเนอร์ของลำโพงคู่นี้เขาคงจะโด๊ปยาม้า ลำโพงรุ่นนี้จึงมีแต่ความพิเศษที่แทรกซึมไปทั่วทุกจุด นอกจากไดเวอร์, ตัวตู้ และวงจรเน็ทเวิร์ค ที่พูดถึงไปข้างต้น ยังมีไฮไล้ท์อีกจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย สิ่งนั้นคือ “ขาตั้ง” ที่ออกแบบมาให้ใช้คู่กัน
ถึงระบุความถี่ต่ำลงไปได้แค่ 53Hz ต้องขอทดสอบดูหน่อย
เพิ่มความสวยงาม ขาตั้งลำโพงมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่จัดวาง และยังทำให้ชุดเครื่องเสียงของคุณมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
รองรับลำโพงตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
ผมไม่ได้ยินอะไรเลย เมื่อลุกจากที่นั่งมาใช้ปลายนิ้วแตะที่ไดอะแฟรมของตัวมิด/วูฟเฟอร์ ปรากฏว่ามันมีอาการสั่นแรงพอสมควร แสดงว่าวงจรเน็ทเวิร์คในตัว
จะขับลำโพงคู่นี้ให้เสียงออกมานิ่งกว่า
ขาตั้งลําโพงเซอร์ราวด์ ขาตั้งลำโพง
แสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ในทุกคุณสมบัติ ทำให้ลำโพงสามารถแสดงความแตกต่างของเสียงออกมาได้ชัดมากเมื่อผมทดลองเซ็ตอัพตำแหน่งของ
มีดีอะไร.? ก่อนจะไปขุดคุ้ยคุณสมบัติที่ดีเด่นของลำโพงเล็กจากประเทศไต้หวันคู่นี้ เรามาพิจารณารูปร่างหน้าตาของมันก่อนดีกว่า